หางานใน Australia (2)

จากตอนที่แล้วที่แนะนำวิธีหางานในออสเตรเลีย ขอต่อครั้งนี้กับประสบการณ์ตรงในการหางานและได้งานครับ

เมื่อมาใช้ชีวิตแบบเด็ก WAH ที่มีวีซ่าอนุญาตให้ทำงานได้อย่าง unlimit (แต่ที่ละไม่เกิน 6 เดือน) ก็นับว่าเป็นโอกาสดีมากๆ เพราะสามารถทำเงินแล้วเก็บไว้เที่ยว หรือจะลงทุนไปใช้อย่างอื่นในอนาคตก็ตาม
งานที่่ผมได้ลองทั้งหมดในออส มี 5 งานด้วยกัน บางงานทำนานหน่อย บางงานแค่ไปลองๆ แล้วก็รู้ว่าไม่ใช่แนว ขอเล่าไปทีละงานนะครับ

1. งานเสิร์ฟ (Waiter)

หลังจากไล่หางานอยู่เกือบสัปดาห์หลังจากมาถึง เนื่องจากภาษาอังกฤษไม่ได้คล่องมาก (โดยเฉพาะสำเนียง aussie ที่ถือได้ว่าฟังยากใช่เล่น) และยังไม่ค่อยรู้ลู่ทางทำงานที่นี่ ผมจึงใช้เว็บชุมชนคนไทย อย่าง natui ในการหางาน แล้วฟ้าก็ประทานงานมาให้ใน 2 วัน เป็นงานเสิร์ฟร้านอาหารไทย ย่านเหนือของ Sydney จึงส่ง text ไปหาเจ้าของร้าน พี่เค้าให้ไปลองงานวันถัดมา แล้วก็ผ่าน Hooray!!! ได้งานแรกในต่างประเทศแล้ว ฮี่ๆๆ

ทำไปได้ประมาณ 1 เดือน มีอย่างนึงที่เป็นอุปสรรค คือ การเดินทาง เพราะต้องนั่งรถไฟ ออกจากตัวเมือง (Central St.) ไปประมาณ 40 นาที อันที่จริงก็ไม่ไกลมาก แต่พอนั่งไปกลับทุกวัน ยิ่งขากลับเลิกดึก ห้าทุ่ม แล้วนั่ง ก็สลบอยู่บนรถประจำ รู้สึกเหนื่อยและเพลีย (ประมาณว่ายังไม่ชินกับการทำงานหนักแบบนี้ 55) บวกกับตอนนั้นโชคดี มาได้อีกงานในเมืองด้วย เวลาไม่ค่อยลงตัว เลยตัดสินใจลาออก

สิ่งที่ได้ : 

ถือเป็นงานแรกในการอยู่ต่างประเทศ แม้ว่าจะเคยทำเสิร์ฟแถวถนนข้าวสาร ตอนเรียนอยู่กรุงเทพฯ มา แต่หลายอย่างแตกต่างกัน ต้องลองแล้วจะรู้

อย่างนึง คือ ได้ใช้ภาษาเต็มๆ ยิ่งร้านนี้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ ประมาณ 90% มีทั้งออสซี่ และเอเชีย สำเนียงหลากหลาย แถมได้ศัพท์กับประโยคในงานด้านนี้ติดตัวไว้

อ้อ! อีกอย่าง คนที่นี่นิยมให้ทิป (tip) เป็นปกติ ผิดกับที่นิว แต่ปกติร้านจะมีกล่อง Tip Box รวมยอดไว้ แล้วพอครบสัปดาห์ก็มาหารแบ่งกันทั้งคนหน้าร้านและในครัว อาจไม่ได้เยอะอะไร แต่พอให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ ^^

2. งานคาเฟ่ (Cafe)

Burger/Sandwich อาหารทานด่วน ในร้านที่ได้ทำ

คาเฟ่สำหรับคนที่นี่ ต่างกับบ้านเราโดยสิ้นเชิง เพราะไม่มีทั้งตลก และนักร้องให้คล้องพวงมาลัย แต่มันคือร้านกาแฟหรือเบเกอรี่่บ้านเรามากกว่า

งานนี้อยู่ในเมือง Sydney ได้มาด้วยความโชคดี มีเพื่อนแนะนำไปสมัคร เพราะได้ยินว่ากำลังต้องการคนในครัว และโชคดีอีกครั้งที่เค้ารับ แม้ว่าจะยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ในครัวมา หั่นเนื้อยังไม่เป็นเลย 55

พี่ๆ ที่ร้านสอนให้ (อย่างเหนื่อยใจ) จนพอจำถูๆ ไถๆ ไปได้ ทำทั้ง Burger, Sandwich, Salad, Wrap, Fruit Salad, Soup, และ Coffee

งานนี้สนุก แต่กดดันด้วยเวลาและคุณภาพของหน้าตาอาหาร

ถึงยังไง ก็ทำได้นานที่สุดใน 5 งานที่ทำ และต้องยอมรับว่าค่าแรงจะดีกว่าร้านอาหารไทย 

สิ่งที่ได้ : 

ได้เรียนรู้วัฒนธรรมการกินของ western หลายๆ อย่าง อะไรที่เราไม่กิน แต่เค้ากินกันได้ (ยังไง) เหอๆๆ อย่าง Salad (ต้องออกเสียง ซา-เลิด อย่าออกสลัด เดี๋ยวฝรั่งนึกว่าด่า ^^) บางอย่างที่มีแต่ผักเลี่ยนๆ กับชีสขุยๆ กินไปครั้งเดียวก็พอแล้ว หันไปกินไก่ทอดกับทูน่าประทังหิวดีกว่า

Salad ล้านแปดที่วางขาย

บวกกับการทำงานกับเพื่อนหลายๆ ชาติ ทั้งอเมริกา,ยุโรป, เอเชีย, ออสซี่ และ อะบอริจิน! ทำให้ได้เรียนภาษากับธรรมเนียมของพวกเค้าไปด้วย เช่น ครั้งนึง เพื่อนออสซี่ ชวนไปปาร์ตี้ Friday night ที่จัดกันตามหลังบ้าน, เล่นเบียร์ปอง, ดื่ม cocktail หนุกหนาน

ที่สำคัญงานนี้ทำให้ผมได้ทำครัว (พอ) เป็น หั่นของเป็น เช็คสต็อคเป็น จนกลายเป็นงานประดับ resume และง่ายในการหางานต่อๆ ไป

3. งานในครัว (Kitchen hand and Chef)

ผ่านไปสักพัก เริ่มมีช่วงว่าง จึงหางานเสริมทำ เป็นงานร้านไทย ไม่ไกลจากที่พักมาก พอเดินไปได้ 20 นาที บวกกับอยากกินอาหารไทย ที่อร่อยกว่าซื้อโลโบทำเอง ฮา...

อันที่จริง อยากสมัครตำแหน่งเสิร์ฟ แต่ร้านขาดคนล้างจาน เอาก็เอาวะ อย่างน้อยก็ได้กินอาหารไทยที่รัก ไม่ต้องทำเอง อิๆ

ล้างไปมาสักพัก ที่ร้านขาดคนทำครัว มือผัด พี่เค้าเลยจับเราไปทำ แล้วสอนงานให้

ยอมรับว่ากดดัน แม้ว่าจะทำคาเฟ่มา เพราะหลายอย่างไม่เหมือนกัน และงานร้านไทย รายละเอียดเยอะกว่า แถมรสชาติขึ้นอยู่กับการปรุงและฝีมือผัดของเรา (แม้ว่าหลายร้านจะมีซอสสำเร็จรูปก็ตาม) แถมกระทะ (Wok) หนักมาก ทำ 2-3 วันแรก แทบยกสองมือ -_-"

ท้ายสุดก็ทำมาได้ เกือบ 4 เดือน แต่ก็ยังผัดไม่อร่อย 555

สิ่งที่ได้ : 

พอเข้าใจหลักการทำอาหารไทย ^^ และการทำงานในครัวร้านไทย ค่อนข้างเป็นแบบครอบครัว เพราะเจ้าของและแฟนก็ทำในครัวด้วย (แอบเกร็งอะ)

ข้อดีอีกอย่าง คือ ได้รู้จักเพื่อนแวดวงคนไทย ใครมีงานดีก็แนะนำกัน ใครมีผับน่าเที่ยวก็ชวนไป แล้วแต่จริตแต่ละคน :) บวกกับมีเรื่องให้เม้ามอยตามประสาชาวไทย ตั้งแต่สภาพอากาศยันข่าวกอซซิปดารา

4. งานร้านซูชิ (Sushi hand)

ข้อดีของการทำร้านอาหารที่เรารัก นั่นคือ "กินฟรี" ฮา....

หลังออกจากงานคาเฟ่ มีเวลาว่างเช้า จึงหางานใหม่ เป็นงานที่ใฝ่ฝัน เพราะชอบกินและอยากทำเป็น นั่นคือ "ซูชิ"

สมัครโดย walk-in ยื่น resume ทิ้งไว้, 4-5 วันถัดมาได้ เจ้าของร้านคนโปรตุเกสโทรมาสัมภาษณ์งาน (สำเนียงแอบฟังยาก) ให้ไปลองงาน 3 ชม. (ไม่จ่ายค่าแรงนะ สำหรับหลายๆ ที่ ถ้าเป็นการลองงาน)

ปรากฏว่า "ผ่าน"

เจ้าของบอกให้มา train 1 สัปดาห์ ถ้าทำไหว จะให้ลงเป็น staff ประจำ

บรรยากาศงานสนุก และไม่ยาก แต่ต้องใช้กำลังบ้าง เช่น ยกถุงข้าวสาร, ขนของจาก Store room, ปีนไปเช็ดป้ายร้าน, จิปาถะ ตามแต่บอสสั่ง และขายซูชิด้วย เรียกว่า พนักงานแต่ละคนทำทุกอย่างในร้านได้หมด

สิ่งที่ได้ : 

ได้ขายของ สนุกดี แต่เวลาร้านเงียบ ก็น่าเบื่อ ชวนง่วงนอน และหลายครั้ง หัวหน้าจะบอกให้กลับเร็ว เพราะไม่มีอะไรให้ทำแล้ว (ร้านยุ่งได้ 7-8 ชม. ร้านเงียบเหลือ 4-5 ชม./วัน)

ได้ทำซูชิ แต่ร้านนี้ทำง่ายมาก เพราะใช้ machine sushibot เหอๆ อันที่จริงก็ยังมี Spring roll และ Salad ด้วยอ่ะ

ได้กินซูชิ แบบไม่อั้น (แต่หัวหน้าบอก อย่าให้เจ้าของร้านเห็น) แถมเอากลับบ้านไปแจกเพื่อนร่วมบ้านอีก 55

5. งานขาย (ตั๋วและทัวร์) 

งานนี้เจอจากเว็บชุมชนคนไทย เป็นงานที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ทำในออฟฟิศ ตอนสมัครเข้าใจว่าอาจจะได้เที่ยวไปในตัว (และฟรี!!!)

สมัครโดยโทรไปที่ออฟฟิศ และพี่เค้าเรียกไปสัมภาษณ์วันรุ่งขึ้น ตอนสัมภาษณ์ใช้ภาษาไทย กับอังกฤษ อย่างละยก จากพี่สองคน (ยังดีว่าภาษาอังกฤษสำเนียงไทย คุ้นเคยกันดี ^^)

สรุปว่าได้ไป เทรนงาน โดยกำหนด 1-2 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะเรียนจบ

แต่พอผมเรียนได้ 3-4 วันแล้ว รู้ว่าไม่ใช่อย่างที่เราฝัน เพราะงานนี้จะประจำอยู่ในออฟฟิศ และเน้น

รับ-คุยโทรศัพท์กับลูกค้า และดีลกับเอเจนท์ทัวร์หรือสายการบิน ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งฟังดูไม่ยาก แต่การต้องนั่งอยู่หน้าคอมทั้งวัน นั่นทำให้ปวดตามาก เพราะอยู่เมืองไทยก็ทำงานแบบนี้มาก จึงอยากพักแล้ว

ท้ายที่สุด จึงบอกพี่เค้าไปตรงๆ ว่า ไม่สะดวกที่จะทำงานนี้ต่อ แม้จะรู้สึกเกรงใจที่เค้าเปิดโอกาสให้เรามาฝึกงานก็ตาม แต่ก็ดีกว่าทำไปแบบฝืนๆ

สิ่งที่ได้ : 

เข้าใจระบบการจัดทัวร์และตั๋วเดินทาง ซึ่งถ้าใครเล็งงานด้านนี้อยู่ ผมเชื่อว่าจะหลงรัก

ทั้งหมดที่เล่ามา (อาจยาวไปนิด) คืองานที่ผมได้ลิ้มลองและเรียนรู้จากชีวิต 1 ปีในออสเตรเลีย อันที่จริง แต่ละงานมีหลายอย่างที่สอนและเป็นประสบการณ์ให้กับผมอย่างมาก และอาจไม่ได้มีแต่ความสุข หรือสบายเสมอไป หลายครั้งรู้สึกกดดัน หรือมีความขัดแย้งกับที่ทำงาน/เพื่อนร่วมงาน จนคิดลาออกก็มี

ท้ายสุดก็ผ่านมาได้ และถือเป็นความคุ้มค่ากับการใช้ชีวิตต่างแดนมากๆ ต้องลองสักครั้งในชีวิต

อันที่จริงยังมีอีกหลายงานน่าทำ และได้ลองสมัครไป แต่อาจเพราะเงื่อนไขบางอย่าง เช่น เวลาทำงาน หรือประสบการณ์ของเราไม่เพียงพอ จึงทำให้ไม่ได้ทำ อย่าง งานนวด, งานคลีน, งานโรงแรม ซึ่งบางงานได้ไปทำที่นิวซีแลนด์แทน หากมีโอกาสจะมานำเสนอต่อครับ