หาที่พักใน Sydney / Australia

เมื่อเดินทางมาถึงออสเตรเลีย แบบเด็ก WAH อย่างแรกๆ ที่ต้องทำ คือ การมองหาที่พัก

ซึ่งที่พักโดยเฉพาะใน Sydney หรือเมืองใหญ่ๆ ทั้งหลาย ที่น่าจะเข้ากับพวกเรา อาจแบ่งเป็นประเภทหลักๆ คือ

• Hostel หรือ Backpacker มักเช่าเป็นรายวันหรือสัปดาห์ เลือกอาศัยคนเดียวหรือแชร์กับคนอื่นได้ ข้อดี คือ เป็นที่พักที่ต่างชาตินิยม ทำให้เรามีโอกาสได้เพื่อนใหม่ๆ อาจได้ connection ที่เป็นประโยชน์ และฝึกภาษาไปในตัว แต่ข้อด้อยที่อาจเจอคือ ไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัว เนื่องจากอยู่กับคนเยอะๆ และคนมักย้ายเข้าออกเรื่อยๆ ซึ่งน่าเป็นห่วงถึงความปลอดภัยของทรัพย์สิน แต่ตัวผมเองก็ยังไม่เคยเจอเคสของหาย รวมถึงราคาเช่าที่มักจะสูงกว่าแบบอื่นๆ จึงเหมาะจะเช่าชั่วคราว เช่น เมื่อเพิ่งย้ายไปถึงเมืองนั้นๆ และระหว่างรอหางาน หาบ้าน ซึ่งยังไม่ลงตัว
• บ้าน/apartment ให้เช่า มักแบ่งให้เช่าเป็นห้องๆ ตามจำนวนห้องที่มี หรืออาจกั้นพื้นที่ส่วนกลาง เช่น Living room, ระเบียง (ฺBalcony/Sunny room) มาเป็นห้องเพิ่ม มีทั้งแบบที่เจ้าของเป็นออสซี่ หรือต่างชาติ และแบบที่คนไทยทำเอง ซึ่งอาจทำเพื่อแชร์ค่าเช่าของตัวเอง หรือบางคนอาจทำเป็นธุรกิจเลยก็มี (แบบหลังพบได้เยอะในบ้านคนไทย และคนจีน/ไต้หวัน) ข้อดีโดยรวมๆ คือ ค่าเช่าจะถูกกว่า hostel/backpacker และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า (เพราะคนเช่ามักอยู่อย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไป เพราะมักมีเงินมัดจำที่เรียก เงิน bond เป็นหลักประกันการพัก ถ้าบ้่้านเราคงเรียก เงินมัดจำล่วงหน้า) สำหรับข้อด้อยที่อาจพบจากที่พักประเภทนี้คือ มักมีกฎระเบียบในการอยู่ เช่น ระยะเวลาขั้นต่ำในการพัก (minimum stay) หรืออาจมีเวรทำความสะอาดระหว่างคนเช่า มักกำหนดมาโดยเจ้าของที่พัก (ก็แหงอยู่ละ 55+) และเงิน bond ที่ทำให้ย้ายออกยาก ต้องวางแผนล่วงหน้า ไม่งั้นอาจโดนหักเงินเอานั่นเอง
• เช่าบ้านเอง ถูกแล้วครับ เช่าเองเลย มีเพื่อนๆ ผมหลายคน ตัดสินใจลงขันเช่าห้อง/บ้านด้วยกัน แล้วหารค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่าเช่า ค่าไฟ ค่าเนต ตามแต่จะตกลงกัน โดยหาจาก Agent ในเมืองนั้นๆ หรืออาจเช่าต่อจากคนที่ปล่อยอยู่ เช่น ตามเวบ natui.etc. ซึ่งข้อดีคือ มักมีราคาที่ถูกกว่าแบบอื่นๆ เพราะเหมือนได้ราคาทุน แล้วยังอาจสร้างรายได้ โดยหาคนเช่าอื่นมาเสริมในบ้านเราได้ บางคนแทบไม่ต้องจ่ายค่าเช่าในส่วนของตัวเองเลย (ก็ลูกบ้านจ่ายคลุมหมดแล้ว) แต่ความยุ่งยากที่พบคือ มักมีระยะขั้นต่ำในการเช่า (rent/lease) เช่น 3 เดือน, 6 เดือน หรือเป็นปีขึ้นไป ทำให้ต้องหาคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เช่น คิดจะอยู่ที่นั่นยาว หรือ นิสัยพอไปกันได้ ไม่งั้นอาจแตกคอแยกย้ายก่อนหมดสัญญากันภายหลัง จะกลายเป็นเรื่องชวนปวดหัว ในการหาคนเช่าอื่นมาแทน นอกจากนี้อาจมีระเบียบบางอย่างที่เราต้องดูแล ในฐานะเราเป็นเจ้าของบ้านกลายๆ เช่น การทิ้งขยะ, การตรวจเช็คสภาพต่างๆ ของบ้าน มิฉะนั้นจะโดนปรับเอาได้ 
• อื่นๆ เช่น 
• อยู่กับ host (เจ้าของฝรั่ง) ที่มักเรียก homestay/homestead โดยเจ้าของมักทำอาหารให้กิน เช่น มี breakfast หรือ บางครั้ง dinner ด้วย
• นอนในรถ/caravan/tent/campsite อันนี้อาจเจอเยอะกว่าที่นิวซีแลนด์ ผมก็ทำมาแล้ว ไว้มีโอกาสจะมาเล่าให้ฟัง
• นอนในที่ทำงาน อันนี้คล้ายๆกับ campsite แต่เป็นที่พักที่นายจ้างจัดให้ อาจต้องจ่ายหรือฟรีก็แล้วแต่ตกลง มักพบกับงานที่ต้องทำในที่ไกลๆ หาที่พักยาก อย่างเช่น งานฟาร์ม

สรุปว่าการหาที่พัก คงต้องดูองค์ประกอบของตัวเรา เช่น จะอยู่นานไหม, ชอบพักแบบไหน, เราเป็นคนชอบความเป็นส่วนตัวหรือรักอิสระ ไม่ชอบผูกมัดด้วยกฏระเบียบ และรวมไปถึงสมาชิกที่พักร่วมกันหรือเพื่อนร่วมบ้าน ซึ่งนั่นจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการอยู่อาศัยยาวๆ ครับ

ถ้าเพื่อนๆ มีเหตุการณ์หรือประสบการณ์ที่อยากแบ่งปันในการหาที่พัก เชิญเล่าสู่กันฟังใน comment box ด้านล่างเลยครับ!